รถยนต์ และรถจักรยานยนต์แต่ละแบบอาจเติมน้ำมันที่แตกต่างกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเภทของน้ำมันเชื้อเพลิงก็มีการเพิ่มประเภทของน้ำมันที่หลากหลายและมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการเค้นสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น จนทำให้หลายคนอาจเกิดความสับสนและเข้าใจผิดจึงเกิดปัญหาเติมน้ำมันผิดเข้าไป หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราควรทำอย่างไร เป็นอันตรายหรือไม่ ตามไปไขทุกข้อสงสัยพร้อมกันในบทความนี้
น้ำมันเชื้อเพลิงมีกี่ประเภท
โดยปกติแล้วน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล เริ่มจากประเภทของน้ำมันเบนซินกันก่อนเป็นอันดับแรกจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันดิบ มีลักษณะใส ไม่มีสี ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนหลายชนิด น้ำมันเบนซินแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยตามค่าออกเทน คือ
- น้ำมันเบนซินธรรมดา (Regular Gasoline) มีค่าออกเทน 87 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบจุดระเบิดแบบใช้คอยล์ (Ignition Coil)
- น้ำมันเบนซินพิเศษ (Premium Gasoline) มีค่าออกเทน 91-95 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบจุดระเบิดแบบหัวเทียน (Spark Plug)
ส่วนน้ำมันอีกหนึ่งประเภทคือ น้ำมันดีเซล เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันดิบ มีลักษณะใส ไม่มีสี ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนหลายชนิด น้ำมันดีเซลมีจุดเดือดสูงและมีค่าออกเทนต่ำ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีระบบจุดระเบิดแบบอัดอากาศ (Compression Ignition)
นอกจากน้ำมันสองประเภทนี้แล้ว ในปัจจุบันยังได้มีการคิดค้นน้ำมันประเภทต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่มากยิ่งขึ้น โดยน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทอื่น ๆ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่
- แก๊สโซฮอล์ เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดจากการผสมระหว่างน้ำมันเบนซินและเอทานอล มีลักษณะใส ไม่มีสี มีค่าออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซิน เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบจุดระเบิดแบบหัวเทียน
- ก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas: LNG) เป็นก๊าซธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการทำให้เหลว มีลักษณะใส ไม่มีสี มีค่าความร้อนสูงกว่าน้ำมันเบนซินและดีเซล เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบจุดระเบิดแบบหัวเทียน
- ก๊าซธรรมชาติอัด (Compressed Natural Gas: CNG) เป็นก๊าซธรรมชาติที่อัดภายใต้ความดันสูง มีลักษณะเป็นแก๊ส มีค่าความร้อนสูงกว่าน้ำมันเบนซินและดีเซล เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบจุดระเบิดแบบหัวเทียน
การเลือกน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับรถยนต์นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ สภาพอากาศ และการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นใหม่จะมีระบบจุดระเบิดแบบหัวเทียน ซึ่งต้องการน้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนสูง เพื่อให้การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสะสมของคราบเขม่าในเครื่องยนต์
เติมน้ำมันผิด ควรทำอย่างไร
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าในปัจจุบันนี้มีน้ำมันหลากหลายประเภทที่มีให้เลือกมากกว่าในสมัยก่อน จึงเป็นโอกาสที่ง่ายที่จะเกิดความสับสนและผิดพลาดกันบ้าง ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเองหรือเด็กปั๊มก็ตาม และเมื่อรู้ตัวแล้วว่าได้เติมน้ำมันผิด เติมน้ำมันสลับประเภทแต่ยังไม่ได้สตาร์ตเครื่องยนต์ ควรปฏิบัติ ดังนี้
- ห้ามสตาร์ตเครื่องยนต์ ถ้าหากเติมน้ำมันผิดแล้วสตาร์ตเครื่องยนต์ทันทีจะทำให้ระบบเครื่องยนต์ภายในส่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมผิดประเภทเข้าสู่เครื่องยนต์ ซึ่งแก้ไขปัญหาได้ยากและมีความเสี่ยงสูงทำให้กลไกเครื่องยนต์เสียหายอย่างหนัก
- เติมน้ำมันที่ถูกประเภทเข้าไป หากรู้ตัวแล้วว่าเติมน้ำมันผิดให้ควรหยุดทันที หลังจากนั้นควรเติมน้ำมันที่ถูกประเภทตามเข้าไป
- รีบแจ้งพนักงาน เวลาที่เติมน้ำมันควรหมั่นสังเกตและเช็กดูว่าเด็กปั๊มเติมน้ำมันให้เราถูกต้องหรือไม่ หากเติมผิดให้รีบหยุดทันทีและทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่อยู่ภายในถังออกให้หมด
- สตาร์ตเครื่องยนต์ทิ้งไว้ ในกรณีนี้หากถ่ายน้ำมันเครื่องที่เติมเข้าไปผิดออกจากถังหมดแล้ว ลองสตาร์ตเครื่องยนต์ทิ้งไว้เพื่อให้น้ำมันใหม่ไล่น้ำมันเก่าที่ค้างอยู่ออกไป
ทดลองขับรถ หลังจากสตาร์ตเครื่องทิ้งไว้แล้วให้ทดลองขับออกไปอย่างช้า ๆ หากไม่มีอาการผิดปกติ เช่น รถกระตุก เครื่องยนต์สะดุด หรือเครื่องยนต์ดับ สามารถสันนิษฐานได้ว่าน้ำมันที่เติมผิดประเภทได้ออกจากถังไปหมดแล้ว
เติมน้ำมันผิด เคลมประกันได้หรือไม่
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์เติมน้ำมันผิด เราจะสามารถเคลมประกันได้หรือไม่ คำอบก็คือสามารถแจ้งเคลมประกันภัยได้ แต่จะต้องเป็นประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น เพราะการเติมน้ำมันผิดประเภทเป็นส่วนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ จึงเข้าข่ายความคุ้มครองต่อประกันภัย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวควรรีบติดต่อบริษัทประกันภัยในทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจเช็กความเสียหายและทำเรื่องเคลมประกัน
สรุปบทความเติมน้ำมันผิด
สุดท้ายนี้ สำหรับปัญหาการเติมน้ำมันผิด ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องหมั่นสังเกตในเวลาเติมน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เพราะความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเราหรือเกิดจากพนักงานเติมน้ำมันก็ตาม แต่ถ้าหากได้เกิดเหตุการณ์เติมน้ำมันผิดขึ้นแล้วก็อย่าตกใจไป ควรตั้งสติให้ดีและทำตามวิธีรับมือที่ได้แนะนำไปข้างต้น เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อตัวรถยนต์และทรัพย์สินของเราให้ดีที่สุด
บทความที่ควรอ่านต่อ